กลยุทธ์ลงทุน กองทุนรวม TACTICAL CALL (31 ส.ค. – 7 ก.ย. 2564)

Jackson Hole Meeting 2021 Summary

1. พาวเวลพูดชัดเฟดเล็งหั่น QE ก่อนสิ้นปี แต่ยังอีกนานกว่าจะขึ้นดอกเบี้ย : ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณในวันนี้ว่าเฟดมีแนวโน้มที่จะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก่อนสิ้นปีนี้เศรษฐกิจสหรัฐได้มาถึงจุดที่ไม่มีความจาเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากนโยบายเฟดอีกต่อไป
2. การลดวงเงิน QE เป็นการกดอัตราเงินเฟ้อ อ่อน ให้ สามารถควบคุมได้ และ Powell พูดชัดเจนว่าต้องแยก ระหว่าง การลดวงเงิน QE กับ การขึ้นดอกเบี้ย มันแตกต่างกัน ทาให้ตลาดมองว่าเป็นการส่งสัญญาณในเชิง “ผ่อนคลาย (Dovish)”
3. คณะกรรมการ Fed สายเหยี่ยว ที่สนับสนุนการใช้นโยบายการเงินเข้มงวดมองว่าตลาดแรงงานฟื้นตัวได้ดีเพราะนายจ้างต้องการแรงงานจานวนมากแต่ Jerome Pow ellell แย้งว่าการจ้างงานในปัจจุบันยังต่ากว่าเดือน ก.พ.2020 อยู่ถึง 6 ล้านคนโดยเฉพาะในภาคบริการและการได้รับเงินค่าจ้างไม่ได้หมายถึงการปรับขึ้นของค่าจ้าง
4. Fed ไม่ได้แสดงความกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อและมองว่าเงินเฟ้อ เกิดจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นเรื่องชั่วคราวรวมถึงมีมุมมองที่ดีต่อเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะยาวโดย Jerome Powel กล่าวว่าการใช้นโยบายเพื่อตอบสนองต่อการผันผวนของอัตราเงินเฟ้อชั่วคราวอาจเป็นเรื่องผิดพลาด
5. ตลาดตอบรับการสุนทรพจน์ดังกล่าว ซึ่งเป็นสัญญาณเกี่ยวกับนโยบายการเงินที่รอมานาน ส่งผลให้หุ้นสหรัฐฯแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ 1.33%

สรุปกลยุทธ์การลงทุน 31 สิงหาคม – 7 กันยายน 2564

• ตลาดสหรัฐฯ ตอบรับในเชิงบวกกับถ้อยคำแถลง ของ ประธาน FED ในเชิงผ่อนคลายมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเรามองว่าเศรษฐกิจสหรัฐดี

• Bond Yield 10 ปี จะค่อยๆ กลับมาฟื้นตัว ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของของประธาน FED

• ซึ่ง Bond Yield สามารถควบคุมได้ การวงเงิน QE แล้ว กลุ่ม Cyclical และ Value Play น่าจะกลับมา Outperform ได้ใน อีก 1เดือนต่อจากนี้

• แบงก์ชาติฝรั่งเศสชี้ ECB ควรคำนึงถึงสภาพการเงินยูโรโซนในการพิจารณาโครงการซื้อบอนด์: นายฟรังซัวส์ วิลเลอรอย เดอ กาลฮาว ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า ECB ควรจะคำนึงถึงสภาพการเงินล่าสุดที่ปรับตัวดีขึ้น ในการหารืออนาคตของการซื้อทรัพย์สินรายเดือนที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

• ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะทำให้ต้องตัดสินอนาคตของโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ในที่ประชุม ECB ประจำเดือน ก.ย. เพราะ ECB ต่างกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่สามารถปรับการซื้อรายเดือนได้ตามสภาพการเงิน

• นายวิลเลอรอยระบุว่า สภาพการเงินในยูโรโซนที่ดีขึ้นนับตั้งแต่การประชุมล่าสุดของ ECB ในเดือนมิ.ย. โดยกล่าวว่า “การหารือของเราควรจะคำนึงถึงสภาพการเงินที่ดีขึ้นด้วย”

• นอกจากนี้ เศรษฐกิจฝรั่งเศสและยูโรโซนควรจะกลับไปสู่ระดับก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ในต้นปี 2565 หรือเร็วกว่านั้น และไม่มีความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะสูงอย่างต่อเนื่องในตอนนี้

• ระยะสั้นตลาดหุ้นจีนต้องเจอความผันผวนสูงอย่างเลี่ยงไม่ได้ จะมีทั้งวันที่หุ้นจีนรีบาวด์ขึ้นแรงจากข่าวดี หรือตกแรงจากข่าวร้าย ความผันผวนนี้จะอยู่จนกว่านักลงทุน สามารถประเมินผลกระทบต่ออนาคตของบริษัทได้ ถ้าข้อบังคับทำให้รายได้และความสามารถในการทำกำไรลดลงอย่างมีนัยสาคัญ มูลค่าหุ้น (Valuation) ก็ต้องต่ำลงจนกว่าบริษัทจะปรับตัวได้หรือพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ๆ

• ดังนั้นในระยะนี้ควรหลีกเลี่ยงการลงทุนที่เจาะจงเฉพาะหุ้นเทคฯ หรือหุ้นเกี่ยวกับการบริโภคในจีน โดยเฉพาะที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ เพราะเป็นเป้าหมายการควบคุมจากทางการจีน แต่ในระยะยาวเชื่อว่าหุ้นดังกล่าว ยังมีศักยภาพอยู่มาก ถ้าหากสามารถปรับตัวกับข้อบังคับได้ หนุนจากการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ตลาดผู้บริโภคชาวจีนจานวนกว่า 1,300 ล้านราย นอกจากนี้หลังจากที่หุ้นจีนปรับลงมาแรง ทำให้หุ้นจีนซื้อขายในระดับ Valuation ที่ถูกกว่าหุ้นสหรัฐฯ อย่างมีนัยสาคัญ

• เราจึงมองว่าเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่รับความเสี่ยงได้สูง ในการทยอยสะสมหุ้นจีน โดยเน้นไปที่หุ้นจดทะเบียนในจีนแผ่นดินใหญ่ (A-Shares)

ประเด็นที่น่าสนใจ
• ชุมชนข่าวกรองสหรัฐประสบความล้มเหลวในการระบุถึงต้นกำเนิดของไวรัสโควิด-19 โดย ปธน.ไบเดน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนได้พยายามที่จะปิดกั้นข้อมูลเหล่านั้น
• พายุเฮอริเคน “ไอดา” พัดเข้าสู่ชายฝั่งรัฐลุยเซียนาในวันอาทิตย์ (29 ส.ค.) ส่งผลให้การผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกลดลงกว่า 1.7 ล้านบาร์เรล/วัน
• ความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นในอเมริกาและยุโรป ประกอบกับความติดขัดด้านการขนส่งสินค้าตามท่าเรือในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 อาจส่งผลให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น
• ผลการประชุมเฟดประจำปี ที่เมืองแจ็กสันโฮล แถลงว่า เฟดยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถึงแม้ว่าจะปรับลดวงเงินมาตรการ QE ในปีนี้ โดยยังต้องติดตามดูตลาดแรงงานให้บรรลุเป้าหมาย การจ้างงานเต็มศักยภาพ ซึ่งการจ้างงานในปัจจุบันยังต่ำกว่าเดือน ก.พ. 2020 อยู่ถึง 6 ล้านคน โดยเฉพาะในภาคบริการ
• นักลงทุนตอบรับเชิงบวกต่อผลการประชุมเฟด โดยสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นในวันศุกร์
• ยิลด์พันธบัตรปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับดอลลาร์ ส่งผลให้ทองคำปรับตัวบวก
• คาดว่าเฟด จะส่งสัญญาณ QE Taper และ Timeline ที่ชัดเจนในการประชุม 23 ก.ย. นี้

ประเด็นที่ต้องติดตาม
• สถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 พันธุ์เดลตาในประเทศต่างๆ
• ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐเดือนส.ค. , ดัชนี PMI ภาคการผลิต และ ภาคบริการเดือน ส.ค.
• นโยบายรัฐบาลจีนในการควบคุมธุรกิจเทคโนโลยีป้องกันการผูกขาด

สรุป Action ประจำสัปดาห์

Technical View : Dow Jones