Top 5 หุ้นเด่นแนะนำ DCA (ก.ค. 63)

Additional gallery in post content

การ์ดอย่าพึ่งตก! ถ้ายังไม่มีเงินออมล้านแรก หรือยังไม่ถึงเป้าหมายเงินออมก้อนโตเพื่อเกษียณสุข! ทุก 6 เดือน บล.ฟิลลิป มีหุ้นอะไรเป็น Top5 แนะนำ DCA บ้าง?

ถ้ายังไม่มีเงินออมล้านแรก หรือยังไม่ถึงเป้าหมายเงินออมก้อนโตเพื่อเกษียณสุข! ทุก 6 เดือน บล.ฟิลลิป จะมีการปรับเปลี่ยนรายชื่อหุ้นในบัญชีออมหุ้น Share Builders Plan เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์อยู่เสมอ ไปดูกันว่ารอบนี้ มีหุ้นอะไรเป็น Top5 แนะนำ DCA บ้าง

BDMS
ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง: เนื่องจากการให้บริการของโรงพยาบาลรัฐยังไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น ทำให้ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนมีการขยายตัวมาต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักได้แก่ การเอาใจใส่ดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ,การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลางที่มีอำนาจซื้อเพิ่มขึ้น และกลุ่มโรคที่มีความซับซ้อนมากขึ้น

• ผู้ประกอบการธุรกิจโรงพยาบาเอกชนขนาดใหญ่ของประเทศและผู้นำเครือข่ายโรงพยาบาลใน Asia Pacific: BDMS มีรพ.เอกชนขนาดใหญ่ในเครือ 49 แห่ง ภายใต้ชื่อโรงพยาบาล 6 กลุ่ม ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลบีเอ็นเอช, โรงพยาบาลพญาไท, โรงพยาบาลเปาโล และโรงพยาบาลรอยัล รวมทั้งประกอบธุรกิจสนับสนุนด้านการแพทย์ เช่น ร้านขายยา (Save Drug) ห้องแล็บ และโรงงานผลิตยาเม็ด ทำให้มีความพร้อมรองรับความต้องการจากลูกค้าได้ทั้งในและต่างประเทศ โดยปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าต่างชาติอยู่ที่ 29%

• ฐานลูกค้ายังเติบโต: แม้มีการระบาดรุนแรงของโรค COVID-19 ทั่วโลกทำให้ทั้งลูกค้าไทยและต่างชาติชะลอเข้าใช้บริการ ทั้งจากการ Lockdown ในหลายๆประเทศ รวมทั้งประเทศไทยตามการประกาศ พรก.ฉุกเฉินของรัฐบาล และการประกาศห้ามต่างชาติบินเข้าไทย แต่อย่างไรก็ตามหลังคลาย Lockdown หรือตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.เป็นต้นมา ลูกค้าไทยทยอยกลับเข้าใช้บริการมากขึ้น และต่างชาติที่คาดจะกลับเข้ามาใน 2H63 หลังปลดล็อคน่านฟ้าแล้วเมื่อวันที่ 1 ก.ค. โดยอนุญาตให้ผู้ป่วยต่างชาติ (Medical Tourism) เดินทางมารักษาที่รพ.ในไทยได้แต่ต้องกักตัว 14 วัน ทำให้ต้องเข้าพักรพ.นานขึ้นส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อหัวมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น กอปรกับความร่วมมือกับ PING AN HELTH ดึงลูกค้าประกันสุขภาพจากจีนเข้ามารักษากับเครือรพ.ของ BDMS ได้ทั้งหมดทุกแห่ง โดยจะเป็นผลดีต่อรายได้ค่ารักษาระยะยาว คาดเริ่มโครงการปลายปีนี้

BEM
• ปลดล๊อคธุรกิจทางด่วนเรียบร้อยแล้ว: ธุรกิจทางด่วนได้จบปัญหากรณีพิพาทกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้มีรายได้จากธุรกิจทางด่วนได้อย่างต่อเนื่อง โดย BEM ได้ต่อสัญญาใหม่เมื่อ 20 ก.พ. 63 โดยสัญญาหลักไปต่ออีก 15 ปี 8 เดือน, ส่วน D อีก 8 ปี 6 เดือน และส่วน C+ อีก 9 ปี 1 เดือน โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม ทำให้ต้นทุนลดลงตามอายุสัมปทานที่ได้ยาวขึ้น

• รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเปิดให้บริการแล้วทั้งเส้นทาง: ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทั้งหัวลำโพง-หลักสอง และเตาปูน-ท่าพระ เปิดให้บริการหมดแล้ว ทำให้สายสีน้ำเงินเดินรถไฟฟ้าได้ทั้งเส้นทาง ส่งผลดีต่อจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นและอัตราค่าโดยสารที่ดีขึ้นจากการเดินทางที่มีระยะทางยาวขึ้น อีกทั้งยังเป็นเส้นทางหลักที่รถไฟฟ้าสายใหม่ ๆ จะมาเชื่อมต่อ

• 2H63 จะฟื้นตัวดีขึ้นกว่า 1H63: ทั้งธุรกิจทางด่วนและรถไฟฟ้ายังไม่ส่งผลบวกเต็มที่จากผลกระทบของ COVID-19 ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลาย ก.พ. ทำให้ผู้ใช้บริการทั้งสองธุรกิจลดลง และมีจุดต่ำสุดใน 2Q63 แต่หลังจากสถานการณ์คลี่คลายดีขึ้นมาก ทำให้ทั้งสองธุรกิจกลับมาฟื้นตัวได้เร็วขึ้น อีกทั้งจะมีการเปิดประมูลสายสีส้มใน 2H63 ซึ่ง BEM จะเข้าร่วมประมูลด้วย และเป็นอีก 1 เส้นที่ BEM คาดหวัง ซึ่งเป็นใต้ดินแบบเดียวกับสายสีน้ำเงิน

GULF
• แผนขยายกำลังผลิตไฟฟ้ารองรับการเติบโตถึงปี 68: แผนขยายการผลิตในช่วง 5 ปีข้างหน้าจะเพิ่มกำลังการผลิตเติบโตต่อปีราว 22.5% จากปัจจุบันที่ 2,726 MWe เป็น 7,249 MWe ขณะที่ ทางบริษัทยังแผนขยายกำลังการผลิตในในต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยง โดยตั้งเป้าปีนี้ที่ 500MWe โดยล่าสุดได้ลงทุนเพิ่มโรงไฟฟ้าพลังลมที่เวียดนาม และโครงการพลังลมกลางทะเลที่ประเทศเยอรมัน รวมกันราว 300MWe คาดว่าการลงทุนในต่างประเทศะเป็นแนวทางการเติบโตลำดับต่อไปในปีนี้

• ลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานเพื่อต่อยอดรายได้: แม้ว่าโครงการโครงสร้างพื้นฐานจะมีผลตอบแทน IRR ต่ำกว่าโครงการโรงไฟฟ้า แต่ลักษณะโครงการที่เป็นสัมปทานจึงมีความเสี่ยงต่ำกว่า เช่นโครงการมอเตอร์เวย์ M6 และ M81, โครงการท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง เฟส3 และมาบตาพุด เฟส3 รวมถึงโครงการเกี่ยวกับการขนก๊าซธรรมชาติ โครงการเหล่านี้จะสร้างรายได้ชัดเจนหลังปี 68 ทำให้รายได้เติบโตต่อเนื่อง

• แนวโน้มกำไรเติบโตมั่นคง: แผนขยายกำลังการผลิตจะเป็นแรงหนุนกำไรเติบโตได้ต่อเนื่องถึงปี 68 โดยไม่แปรผันมากต่อภาวะเศรษฐกิจ

CPALL
• ผู้นำธุรกิจ CVS และ C&C ในไทย: CPALL เป็นผู้นำธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (CVS) “7-Eleven” ที่มีอัตราการขยายตัวสูง สามารถตอบโจทย์ Lifestyle ผู้บริโภคได้ดี ขณะธุรกิจ Cash & Carry (C&C) ของ “MAKRO” ซึ่งเป็นบริษัทย่อย นับเป็นผู้นำในไทยเช่นกัน ทั้งมีโอกาสเติบโตในต่างประเทศ ซึ่งมีประชากรหนาแน่น โดย ณ สิ้นมี.ค.63 มีสาขา CVS 11,983 แห่ง และสาขา C&C 134 แห่งในไทยและ 7 แห่งในต่างประเทศ (กัมพูชา, อินเดีย, จีน, เมียนมา และ UAE)

• การอยู่ภายใต้กลุ่ม CP ช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน: การดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร ช่วยสนับสนุนให้เกิด Synergy การคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพจาก Economy of Scale และอำนาจต่อรองด้านจัดซื้อ ส่งผลให้สามารถขยายธุรกิจได้อย่างมั่นคง ทั้งนี้ CPALL มีแผนขยายสาขาปีละราว 700 แห่งเพื่อสู่เป้า 13,000 สาขาในปี 64 ขณะ MAKRO ยังเป็นการเติบโตของสาขาในไทยและต่างประเทศต่อเนื่อง

• คาดธุรกิจใน 2H63 กลับสู่ปกติ: การผ่อนคลาย Lockdown ตามลำดับทำให้คาดทั้ง CPALL และ MAKRO จะกลับมาดำเนินธุรกิจได้ตามปกติใน 2H63 เป็นต้นไป สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่ i) การได้รับสิทธิ Franchise “7-Eleven” ในกัมพูชา 30 ปี ซึ่งกัมพูชามีประชากรราว 16.5 ล้านคน นอกจากนี้ยังเหลือผลในสปป.ลาวอีกแห่ง ii) แผนเข้าลงทุน 40% ใน Tesco Lotus ซึ่งจะทราบผลอนุมติจากคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ใน 2H63 โดยแม้จะเพิ่มภาระดอกเบี้ยหากทางฝ่ายมองเป็นภาพบวกในระยะยาวจากรูปแบบร้านค้าที่หลากหลายขึ้น, พื้นที่เช่าที่จะเป็นรายได้ประจำ และ Synergies ด้านอื่นๆ

MTC
• ผู้นำธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และนาโนไฟแนนซ์: โดย ณ สิ้น 1Q63 MTC มีสินเชื่ออยู่ทั้งสิ้น 62.5 พันล้านบาท และมีสินเชื่อจำนำทะเบียนรถทั้งรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ และรถเพื่อการเกษตรคิดเป็น 71.38% หรือ 44.6 พันล้านบาท นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์คิดเป็น 9.92% ของพอร์ต หรือเป็นเงิน 6.2 พันล้านบาท เป็นอันดับ 1 ของผู้ประกอบการในธุรกิจนี้ นอกจากนี้ยังมีสาขาอยู่ถึง 4,294 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ และมีแผนที่จะขยายเป็น 4,700 สาขาภายในสิ้นปี 63

• ไม่ได้รับผลกระทบจากกฎเกณฑ์ใหม่: ถึงแม้ว่าทาง ธปท. จะมีมาตรการออกมาเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ โดยมีการลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถเหลือ 24% จากเดิมที่กำหนดให้คิดได้ไม่เกิน 28% ต่อปี แต่ MTC นั้นจะไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้ เนื่องจากเดิมนั้น MTC คิดอัตราดอกเบี้ยไม่ถึง 24% อยู่แล้ว โดย ณ สิ้น 1Q63 ผลตอบแทนสินเชื่อของ MTC อยู่ที่ 21.7%

• โดดเด่นเรื่องควบคุมความเสี่ยง: ถึงแม้ว่ากลุ่มลูกค้าของ MTC จะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง แต่ MTC สามารถควบคุมความเสี่ยงได้ดี โดยมี NPL ที่ต่ำมากเพียง 1.18% และมีสัดส่วนสำรองต่อ NPL ที่สูงมากถึง 200.89% ซึ่งเพียงพอที่จะรองรับความเสี่ยง และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจได้

DCA ออมหุ้นรายเดือน (Share Builders Plan)
เลือกหุ้นที่ลงทุน หุ้น 30 ตัว เลือกได้สูงสุด 20 ตัว (รีวิวทุก 6 เดือน) 
ด้วยเงินลงทุน ขั้นต่ำเพียงเดือนละ 1,000 บาท (การเพิ่มเงินลงทุนต่อเดือน ขั้นต่ำครั้งละ 1,000 บาท เช่น 1,000 บาท 2,000 บาท)
เลือกวันที่ลงทุน วันที่ 5 หรือ 20 หรือ 28 ของเดือน
วิธีการชำระราคา หักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ (ATS)
รายชื่อหุ้นในบัญชีออมหุ้น ADVANC AOT AP BBL BDMS BEM BGRIM BH BTS CPALL CPF DELTA EPG GULF HMPRO INTUCH KBANK KKP KTB MAJOR MINT MTC PTT PTTGC SCB SCC SF TDEX TOP TU
รายละเอียดหุ้นในบัญชีออมหุ้น คลิกที่นี่
ติดตามพอร์ตการลงทุน ได้ตลอดเวลาที่แอป POEMS
ค่าธรรมเนียม 0.2570% ของจำนวนเงินที่ลงทุน ขั้นต่ำ 30 บาทต่อรอบการลงทุน
(ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

วิธีการสมัคร ลงทุนในกองทุนรวมแบบรายเดือน (DCA)

การลงทุนบัญชีออมหุ้น DCA รายเดือน


สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ครับ
นาย สุรัตน์ สดงาม ผู้แนะนำการลงทุน
ใบอนุญาตเลขทะเบียน 083680

🆔 LINE: http://line.me/ti/p/~naimoo
📱089-199-3466 🌐 www.yak.guru
#กองทุนประกันความ #ยักษ์กูรู


#Disclaimer

  • วัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น มิได้จัดทําขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทุน
  • ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือภาษีก่อนตัดสินใจ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • การลงทุนมีความเสี่ยงสูงที่อาจทําให้เกิดความสูญเสียจากการซื้อขาย ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความเหมาะสมในการลงทุน โดยคํานึงถึงประสบการณ์ในการลงทุน วัตถุประสงค์ในการลงทุน แหล่งเงินทุน และรายละเอียดอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

#กองทุนรวม #ออมกองทุน #ออมหุ้น
#FundSuperMart #หลักทรัพย์ฟิลลิป
#YAKGURU #YAKinvest #ยักษ์กูรู

Previous มือใหม่! จะซื้อกองทุน PWIN ต้องทำอย่างไรบ้าง?
Next PWIN ลงทุนใน Internet Sector ของจีนผ่าน KWEB ETF

No Comment

Leave a reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *